3/9\'\'MuAng PhOn PiTtAYaKoM\'\'
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.


3/9 โรงเรียนเมืองพลพิทยาคมปีการศึกษา 2552
 
บ้านGalleryLatest imagesค้นหาสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ

Go down 
4 posters
ผู้ตั้งข้อความ
"TuLI_:p"
Admin
Admin
Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ 2-18



Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ   Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ Icon_minitimeFri Feb 05, 2010 7:08 pm

. สัตว์ที่ถูกฝังในหิน (Animals encased in stone)
ชื่ออาจจะฟังดูสยองหน่อยนะครับ แต่เรื่องนี้เค้าก็จัดให้อยู่ในอันดับเรื่องแปลกและลึกลับอยู่เหมือนกัน ว่าด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์ที่ถูกหินห่อหุ้มหรือถูกฝังอยู่ในหิน ซึ่งบางทีก็อาจจะเป็นในต้นไม้บ้าง หากว่าไปมันก็น่าประหลาดและแปลกอยู่นะครับ ว่าทำไมสัตว์เหล่านี้ถึงอยู่ถูกฝังอยู่ในเนื้อต้นไม้ ในดิน ในก้อนหินแล้วมีชีวิตรอดอยู่มาอย่างยาวนานภายใต้สภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตอยู่แบบนั้นได้ ไม่เพียงเป็นสิบหรือร้อยปี แต่บางทีอาจจะเป็นแสนหรือล้านปีก็เป็นได้ แล้วมันไปทำอะไรอยู่ในนั้น จะว่าถูกหินดินทับหรือสัตว์เหล่านั้นขุดและมุดลงไปเอง มันก็น่าแปลกใจและไม่น่าเป็นไปได้อ่ะนะครับ ก็ได้แต่คาดเดากันไปต่างๆ นานา แต่เหตุผลหรือทฤษฎีที่อธิบายปรากฏการณ์นี้ได้อย่างชัดเจนแล้ว ปัจจุบันก็ยังหาข้อสรุปมากล่าวกันลำบากอยู่พอดูนะเนี่ย
ชมตัวอย่างรายงานการพบเจอกันซักเล็กน้อยดีกว่าครับ
ค.ศ.1761 นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศสได้ตีพิมพ์รายงานการพบคางคกถูกฝังอยู่ในก้อนหิน
ค.ศ.1818 นักธรณีวิทยาอเมริกัน 2 คนได้ขุดพบกบถูกฝังอยู่ในชั้นหินที่มีอายุมากกว่า 6,000 ปี
ค.ศ.1821 นาย David Virtue ขุดพบกิ้งก่าฝังอยู่ในชั้นหินลึกราว 22 ฟุต ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง เจ้ากิ้งก่าก็สามารถขยับและเคลื่อนไหวได้
ค.ศ.1856 สำหรับเรื่องนี้หลายคนก็อาจจะทราบกันดี เพราะโด่งดังพอดู มืออสูรฯ ก็เคยนำไปเขียนถึงครับ คือมีการขุดอุโมงค์เพื่อทำทางรถไฟใต้ดินของประเทศฝรั่งเศส แล้วบังเอิญขุดเจอสัตว์โบราณประเภท เทโรซอร์ (Pterosaur) หรือเทราโนดอน (Pteranodon) เข้า ซึ่งหลังจากขุดเจอเพียงไม่กี่นาที เจ้าสัตว์ตัวนี้ก็เริ่มขยับตัวขึ้นอีกครั้งครับ แต่อยู่ได้เพียงไม่นานมันก็ร้องออกมาแล้วขาดใจตายไป โอ้ น่าเสียดายอยู่นะครับเนี่ย
ค.ศ.1865 หนังสือ Hartlepool Free Press ของอเมริกาได้ตีพิมพ์รายงานการพบคางคกโบราณที่ถูกฝังอยู่ในโพรงชั้นหินปูนลึกจากพื้น 24 ฟุต จากการตรวจสอบแล้วประมาณกันว่ามันมีอายุราวพันกว่าปีมาแล้ว
ค.ศ.1876 หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของแอฟริกาใต้ได้รายงานการพบ คางคกถึง 62 ตัว ถูกฝังอยู่ในโพรงต้นไม้ อายุไม่ต่ำกว่า 30-50 ปี เป็นอย่างน้อย


เอาเท่านี้ก่อนดีกว่าครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นรายการสารคดีไปซะก่อน ข้อมูลอาจจะเก่าไปนิดนึง ไม่ว่ากันเน้อ อิอิ ตัวอย่างสัตว์ที่ยกมานี่เหมือนถูกสตัฟฟ์ไว้ในหินชั่วคราว โดยฝีมือของกาลเวลายังไงยังงั้นเลยซิครับ แต่ทุกตัวต่างก็ฟื้นขึ้นมาและมีชีวิตอยู่ต่อได้สบายบรื๋อ บางตัวก็อยู่รอดมาได้อีกเป็นปีหรือหลายปี แต่บางตัวไม่นานก็ตายครับ อะไรทำให้สัตว์เหล่านั้นมีชีวิตในสภาพจำศีลอยู่มาได้นานถึงขนาดนั้น คำถามนี้ยังคาใจนักวิทยาศาสตร์มานาน อาจจะเป็นกลไกการป้อนกันตัวเอง พลังปราณชีวิต พลังในการบังคับร่างกายของตัวสัตว์เองหรือเปล่า บางที…วันหนึ่งข้างหน้าคำตอบที่เรารอคอยอาจจะมาถึงก็ได้ครับ
นับว่าเป็นอะไรที่ไม่ธรรมดาอยู่เหมือนกันนะครับ

สำหรับบรรดาสัตว์ที่สามารถอยู่รอดมาได้นานนับสิบปีจนไปถึงหลายร้อยพันปีไปโน่น ความลับของการมีชีวิตมาอย่างยืนยาวภายใต้สภาวะจำศีลแบบนั้นคืออะไรกันแน่ แล้วถ้ามีการค้นพบปัจจัยหรือวิธีที่ทำให้สัตว์เหล่านี้สามารถอาศัยและมีชีวิตรอดมาได้จากสภาพแบบนั้น ความฝันในการมีชีวิตที่ยืนยาวหรือการเป็นอมตะของมนุษย์ก็อาจจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมก็เป็นได้ครับ ก็เล่าสู่กันฟังมาพอสมควร พอให้รู้จักกันนิดหน่อย สำหรับอันดับแรกก็คงเอาไว้แค่นี้ดีกว่าครับ ไม่เยิ่นเย้อดี เอ้า เราไปชมอันดับต่อไปกันเลยดีกว่า ^_^


2. แคทเทิล มิวทิเลชั่น (Cattle Mutilations)
แหม สำหรับอันดับนี้คงแทบจะไม่จำเป็นต้องพูดถึงอะไรมากเลยมั๊งครับเนี่ย แฟนนานุแฟน Myth ก็คงจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ชมกันนิดหน่อยก็น่าจะโอเคน่า หรือคุณคิดว่าไงครับ ? คงไม่ว่านายโอเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนนาครับ
ถ้าหากจะนับย้อนไปถึงครั้งแรกๆ ที่มีการรายงานกันเรื่องแคทเทิล มิวทิเลชั่นแล้ว ก็คงจะต้องย้อนกลับไปเมื่อราวปี ค.ศ.1950 ครับ สำหรับประเทศแรกที่มีการรายงานในลักษณะนี้ออกมา ก็คงจะไม่พ้นประเทศอเมริกาครับ ที่รัฐแคนซัส (Kansas) และมินเนโซต้า (Minnesota) โดยจากการรายงานค้นพบบรรดาซากสัตว์ที่ถูกชำแหละโดยวิธีปริศนาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งสาเหตุที่เรียกกันเช่นนี้ก็เพราะ ดูแล้วมนุษย์ธรรมดาๆ ไม่น่าหรือไม่คิดว่าจะกระทำได้น่ะซิครับ

และปรากฏการณ์หรือเหตุการณ์ที่ว่าส่วนใหญ่มันมักจะเกิดในช่วงข้ามคืนหรือตอนกลางคืนที่บรรดาชาวไร่ ชาวนาหลับอุตุกันอยู่เสียด้วยซิ อะไรมันจะลึกลับขนาดนั้นครับท่านผู้ชม
ลักษณะของสัตว์ที่โดนตัดเอาอวัยวะไป ฝีมือหรือวิธีนี่ยอดเยี่ยมทีเดียวครับ

ปรากฏการณ์แคทเทิล มิวทิเลชั่น คืออะไร?

ครับ มันก็คือการที่สัตว์เลี้ยงเช่น วัว แพะ แกะ ถูกฆ่าและโดนตัดเอาอวัยวะสำคัญบางส่วนไป โดยใช้วิธีการหรือเครื่องมือที่ทันสมัยและล้ำหน้าเอามากๆ เสียด้วยซิครับ ที่ว่าอย่างนี้ก็เพราะว่าซากของสัตว์ที่โชคร้ายนั้น รอยในการตัดหรือชำแหละนั้นจะบางเรียบเฉียบคม เรียกว่าถ้าหากเป็นหมอละก็ไม่ต้องลงมีดซ้ำกันเลย เพราะความแม่นยำสูงและฝีมือดีมากทีเดียว ที่สำคัญรอยในเลือดตัวหรือรอยที่ถูกตัดของสัตว์แทบทุกตัวนั้นจะไม่มีเหลือเลยซักหยดเดียวครับ แล้วเลือดหายไปไหนหมดละ ? ก็นั่นน่ะซิ นายโอก็อยากรู้เหมือนกันครับ แต่ได้มีหัวข้อสันนิษฐานกันที่หลายคนยอมรับและเห็นตรงกันเรื่องนึง ว่าเนื้อของสัตว์เหล่านั้นโดนตัดออกไปด้วยเลเซอร์อย่างแน่นอน ไม่น่าจะเป็นอื่นไปได้ และไม่ใช่เลเซอร์แบบกระจอกๆ นะครับ แต่เข้าขั้นคุณภาพดีมากเลยทีเดียวครับ แล้วใครล่ะครับที่พกอุปกรณ์แบบเลเซอร์เพื่อนำไปตัดอวัยวะสัตว์ออกมาเล่นๆ ในตอนกลางคืน ? คงไม่ใช่คุณหรือนายโอแน่ครับ หุ หุ
ขึ้นไปข้างบน Go down
"TuLI_:p"
Admin
Admin
Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ 2-18



Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ   Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ Icon_minitimeFri Feb 05, 2010 7:11 pm

ปรากฏการณ์ แคทเทิล มิวทิเลชั่น มีสาเหตุมาจาก ?

นั่นน่ะซิครับ สาเหตุของปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นจากอะไร ก็น่าสงสัยอยู่ไม่น้อยละครับซึ่งหากจะว่ากันไปแล้วการเกิดแคทเทิล มิวทิเลชั่น ได้มีผู้สันทัดกรณีและผู้รู้(มาก) ได้ให้ข้อคิดสรุปและคำอธิบายไว้หลายประเด็นด้วยกัน เราลองมารับชมกันดีมั๊ยครับว่ามีอะไรบ้าง

3-7-2009 15:56ประเด็นที่ 1. เขาว่ากันว่าสัตว์เหล่านี้น่ะ ถูกฆ่าโดยพวกหมาป่าหรือพวกหมาป่าไคโยตี้ครับ ไม่ได้ถูกฆ่าตายด้วยวิธีประหลาดอะไรที่ไหน ซึ่งพวกวัว แกะ แพะ พวกนี้ก็เป็นเหยื่อของหมาป่าอยู่แล้วนี่ ประเด็นนี้ก็พอมีคนเห็นด้วยอยู่แต่ก็น้อย เพราะเหตุผลรองรับยังฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลยน่ะซิครับ ทั้งในเรื่องรอยตัด รอยเลือด และการขนย้ายสัตว์ไปยังจุดเกิดเหตุ ไม่มีร่องรอยหรืออะไรทิ้งไว้เลยน่ะซิครับ ถ้าหากโดนหมาป่าคาบไปจริงๆ แล้ว มันก็น่าจะเหลือร่องรอยอะไรอยู่บ้าง ก็ว่ากันไปครับ แต่ก็ยังเป็นประเด็นที่มีคนสนใจอยู่เหมือนกัน

ประเด็นที่ 2. อันนี้ฮิตมาก ก็คือถูกฆ่าโดยเอเลี่ยนครับ เพื่อที่จะเอาชิ้นส่วนเนื้อเยื่อหรืออวัยวะไปทำการศึกษาระบบของร่างกาย DNA พันธุกรรม อะไรไปโน่น และคำอธิบายนี้มีคนเห็นด้วยค่อนข้างมากครับ เนื่องจากเหตุผลยังพอฟังขึ้นอยู่มาก เช่น การนำตัวหรือขนย้ายสัตว์ไปอย่างเงียบๆ เทคนิคการตัดชิ้นส่วน การนำมาคืนแบบไร้ร่องรอยหรือการทิ้งซากสัตว์ไว้กลางทางโดยที่สัตว์มีรอยแบบเหมือนโดนโยนลงมาจากที่สูง อะไรแบบนี้ครับ ก็ถือว่าน่าสนใจดีทีเดียวสำหรับประเด็นนี้

ประเด็นที่ 3. อันนี้อาจจะดูแปลกซักหน่อย คือเขาว่าสัตว์เหล่านี้โดนฆ่าเพื่อเอาไปบูชาซาตานครับ โดยจากฝีมือคนกลุ่มนึงหรือพวก Satanic Cults แต่ก็ผู้ที่เห็นด้วยก็ยังมีไม่มากครับ เนื่องจากเหตุผลยังไม่เข้าข่ายที่น่าเชื่อถือเท่าที่ควร เพราะอย่างที่กล่าวไป ถึงลักษณะและสภาพของสัตว์ที่โชคร้ายเหล่านั้น ด้วยฝีมือของมนุษย์ทั่วๆ ไปนี่ อาจจะลำบากทีเดียวครับ

ประเด็นที่ 4. สำหรับข้อนี้เห็นจะขาดไม่ได้ทีเดียวครับสำหรับพวกคอ Skepticism ขี้สงสัยทั้งหลาย นั่นก็คือเป็นโครงการทดลองลับของรัฐบาล ที่เกี่ยวกับการดัดแปลงพันธุกรรมสัตว์ต่างๆ นับว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยครับ แต่คนที่ยอมรับก็ยังไม่มากนัก เนื่องจากน้ำหนักเหตุผลยังไม่พอเพียง และผู้ที่ไม่สนับสนุนแนวคิดนี้ ต่างก็แย้งว่าถ้าหากเป็นโครงการลับของรัฐบาลจริงๆ แล้วละก็ ไม่น่าจะแอบมาขโมยสัตว์ของชาวบ้าน ไปทีละตัว สองตัวหรือเป็นฝูงแบบนี้ เพราะหากทางรัฐบาลต้องการทดลองโครงการลับอะไรซักอย่างแล้ว จะเลี้ยงสัตว์หรือเพาะพันธุ์ขึ้นมาทดลองเองกี่ร้อยกี่พันตัวก็ไม่น่าจะมีปัญหาอยู่แล้ว จะมาแอบลักขโมยทำไมให้เมื่อยกันล่ะ อื้ม ก็นั่นซิครับ แต่ว่าประเด็นนี้ก็น่าสนใจอยู่นะครับเนี่ย
ประเด็นที่ 5. มาปิดท้ายกันที่ข้อนี้ครับ สำหรับประเด็นนี้ นับว่าน่าสนใจ (นายโอใช้คำนี้พร่ำเพรื่อเกินไปหรือเปล่าเนี่ย) ทีเดียว ก็เป็นเรื่องของโรคร้ายของสัตว์บางชนิดครับที่เกิดจากพันธุกรรมของที่ไม่สมบูรณ์หรืออาจจะเรียกกันง่ายๆ ว่าพันธุกรรมบกพร่องนั่นเอง ซึ่งส่งผลทำให้วันดีคืนดี สัตว์ตัวนั้นโดนโรคร้ายที่เกิดขึ้นภายในร่างกายจู่โจมเข้าจนกลายเป็นอย่างที่เห็นกัน แต่บ้างก็ว่าเกิดจากไวรัสในร่างกายของสัตว์ตัวนั้นเอง ที่หันกลับมาเล่นงานร่างกายของสัตว์เสียเอง น่าสนใจไม่น้อยทีเดียวครับ สำหรับแนวคิดของประเด็นนี้

ทั้งหมดนี่ก็คือข้อสังเกตหรือคำอธิบายเรื่องของปรากฏการณ์แคทเทิลฯ ซึ่งคิดว่าเอาแค่พอท้วมๆ ประมาณนี้ก็ไม่เลวนะครับ ไม่ได้ลงไปรายละเอียดมากเท่าไหร่ เพราะมีบทความเรื่องแคทเทิลฯ อยู่ในเวบอยู่แล้ว ถ้าสนใจก็เข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้เลยครับ


3. เสียงลึกลับ (Unexplained Sound, Taos Hum)

สำหรับหัวข้อนี้เราๆ ท่านๆ อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยหรือรู้จักกันเท่าไหร่ครับ เพราะไม่ใช่เรื่องที่โด่งดังหรือรู้จักกันไปทั่วโลก แต่เป็นเพียงเหตุการณ์ประหลาดเรื่องนึง ที่เกิดขึ้นในอเมริกาและไม่กี่ประเทศเท่านั้นเองครับ ส่วนเหตุการณ์จะเป็นเช่นไรนั้น ก็ติดตามอ่านกันต่อเลยซิครับ มัวช้าอยู่ใย



เรื่องราวก็มีอยู่ว่าในปี ค.ศ.1977 ประชาชนของอเมริกาเกิดได้ยินเสียงประหลาดขึ้นมา ซึ่งลักษณะของเสียงจะคล้ายกับเสียงเหมือนผึ้งบินหรือแมลงที่กำลังบินอยู่ หึ่ง หึ่ง หึ่ง อะไรประมาณนี้น่ะครับ ซึ่งว่ากันว่าถ้าไม่ใช่สถานที่ที่เงียบสงบแล้วก็จะไม่ได้ยินเสียงนี้ครับ โดยเจ้าเสียงที่ว่านี้ดังติดต่อกันตลอดเวลาแต่บางทีก็เว้นจังหวะเป็นระยะแบบสม่ำเสมอกัน เสียงปริศนานี้เกิดขึ้นอยู่นานครับ โดยที่ยังหาต้นตอของเสียงไม่เจอแต่อย่างใด กระทั่งได้มีการสำรวจและวัดคลื่นความถี่ของเสียงปริศนาออกมาเรียบร้อย ก็ราว 30-80 Hz โดยประมาณครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้ยินเสียงนี้นะครับ คนที่ไม่ได้ยินก็มี ที่ได้ยินก็เยอะ แต่ก็หาสาเหตุไม่พบครับว่าเสียงปริศนานี้เกิดจากอะไร


ในช่วงเวลาขณะนั้น คนที่ได้ยินเสียงนี้ต่างก็เสียสุขภาพจิตไปตามๆ กันครับ จะนอนก็ไม่หลับ อ่านหนังสือก็ไม่รู้เรื่อง เพราะทั้งสองหูได้ยินเสียงที่ว่านี้รบกวนอยู่เกือบตลอดเวลา โดนเจ้าเสียงประหลาดนี้เล่นงานเอาแทบเกือบแย่ไปตามกัน จนได้มีการตั้งทีมงานเฉพาะขึ้นมาเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุนี้เหมือนกันครับ แต่ก็คว้าน้ำเหลว เพราะหาข้อสรุปและคำอธิบายไม่ได้ว่าต้นตอของเสียงปริศนานี้นั้นมาจากไหน แต่บ้างก็สันนิษฐานว่า เป็นคลื่นความถี่ต่ำที่ปล่อยออกมาจากโลก แต่บ้างก็ว่าเป็นเสียงจากดาวเทียมที่ส่งสัญญาณบางอย่างลงมายังโลก และข้อสันนิษฐานที่จะขาดเสียมิได้เลยสำหรับพวกคอเรื่องลึกลับ ก็คือเป็นโครงการทดลองลับของรัฐบาล (อีกแล้ว) ในการสร้างเครื่องมือสื่อสารทางการทหาร ครับ...ก็เช่นเคย ไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนสำหรับเสียงปริศนานี้ ก็เลยยังเป็นเรื่องลึกลับที่หาคำอธิบายไม่ได้มาจนทุกวันนี้แหละครับ จริงๆ แล้วเรื่องนี้ยังมีรายละเอียดอีกค่อนข้างเยอะนิดนึง แต่คิดว่าอ่านกันแค่พอกล้อมแกล้มประมาณนี้น่าจะดีกว่านะครับ จะได้ไม่น้อยไม่มากจนเกินไป
ขึ้นไปข้างบน Go down
"TuLI_:p"
Admin
Admin
Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ 2-18



Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ   Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ Icon_minitimeTue Feb 09, 2010 6:16 pm

. ฝนกบ ฝนปลา (Fish Falls & Weird Rain)
เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ทุกท่านคงจะคุ้นเคยหรือทราบกันเป็นอย่างดีแล้วนะครับ ถ้างั้นเราก็จะไปกันแบบเร็วหน่อยดีมั๊ยครับ หากจะว่าไปแล้วเรื่องฝนสัตว์ ฝนพืชเนี่ย เป็นอะไรที่เหลือเชื่อและประหลาดน่าดูชมอยู่เหมือนกันนะครับ ถ้าหากเรามานั่งคิดกันตามหลักความเป็นจริงแล้ว การที่มีบางอย่างตกลงมาจากท้องฟ้าโดยที่ไม่ใช่ฝน หิมะหรือลูกเห็บ ฯลฯ มันก็ดูแปลกดีครับ และยิ่งถ้าสิ่งที่ตกลงมาเป็นปลา เป็นกบเนี่ย หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ละก็ ความแปลกก็จะทวีเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเลย
จากรายงานบันทึกกล่าวไว้ว่าสิ่งที่มีการตกลงมาเป็นจำนวนมากไม่ใช่เพียงแค่ปลาอย่างเดียวเท่านั้นนะครับ หากแต่ยังมีสัตว์อีกหลายชนิด เช่น กบ คางคก หอย จระเข้ ทาก งู อีกทั้งเมล็ดธัญพืชอีกนานาชนิดอีกด้วยครับที่เคยมีบันทึกเอาไว้ว่าตกลงมาจากท้องฟ้า อ้อ หากพูดถึงเรื่องฝนกบ ฝนปลา สารพัดฝนแล้วไม่พูดถึงบุคคลท่านนี้หน่อยก็จะดูกระไรอยู่นะครับ เขาก็คือชาร์ลส์ ฟอร์ท (Charles Fort) นั่นเอง แล้วชาร์ลส์ ฟอร์ท เป็นใครกันละ? ครับ เขาก็คืออเมริกันชนผู้ที่บุกเบิกในเรื่องลึกลับและเหตุการณ์แปลกประหลาดเป็นคนแรกๆ ทั้งยังเป็นคนเก็บบันทึกรายงานเรื่องราวแปลกๆ เอาไว้มากมาย ผลงานตีพิมพ์เป็นหนังสือออกมาก็หลายเล่มอยู่ครับ แต่ฉบับที่โด่งดังที่สุดก็เห็นจะเป็นหนังสือที่ชื่อ The Book of the Damned หรือที่รู้จักกันในชื่อฟอร์เทียน่า (Forteana) ซึ่งเป็นหนังสือที่รวบรวมเหตุการณ์การประหลาดต่างๆ เอาไว้เพียบ เช่น ฝนกบ ฝนปลา ฝนเมล็ดพืชและปรากฏการณ์แปลกประหลาดอีกหลายเรื่องครับ

นายฟอร์ท คนนี้นั้นถือได้ว่ามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากทีเดียวครับในช่วงยุค ทศวรรษที่ 19 สำหรับยุคเฟื่องฟูและยุคบุกเบิกวงการเรื่องแปลก เหตุการณ์ประหลาดที่หาคำอธิบายไม่ได้ เรื่องฝนกบ ฝนปลา ก็ได้นายคนนี้แหละครับที่เป็นคนนำเสนอรายงานและเผยแพร่บันทึกเป็นวงกว้างมากขึ้นต่อสาธารณะชน กล่าวกันว่าบันทึกเรื่องแปลกของฟอร์ทนั้นมีถึง 600,000 เรื่อง เลยทีเดียวครับ นับว่าไม่ธรรมดาทีเดียว ......นอกเรื่องออกไปซะไกล กลับมาเข้าเรื่องต่อดีกว่าครับ คำถามที่สงสัยกันก็คงจะไม่พ้นข้อที่ว่า แล้วบรรดาปลาหรือสรรพสิ่งทั้งหลายขึ้นไปอยู่ในอากาศได้ยังไง ? แล้วตกลงมาเป็นฝนได้อย่างไร ? และไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เสียด้วยซิครับ อื้ม....มีผู้รู้และผู้สันทัดกรณี รวมทั้งผู้ที่ศึกษาปรากฏการณ์เหล่านี้อย่างจริงจัง ได้ให้คำอธิบายไว้ว่างี้ครับ คือว่าสาเหตุหรือตัวการที่เป็นต้นตอของเรื่องราวสารพัดฝนประหลาดนี้นั้นก็คือ พายุเฮอร์ริเคน ทอร์นาโด ไต้ฝุ่น นี่แหละครับ ที่หอบเอาบรรดาสารพัดสิ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ซึ่งบางทีอาจจะจากแม่น้ำลำคลอง คูหนอง คลองบึง ทะเล หรือมหาสมุทรหรือแล้วแต่ทางที่พายุพัดผ่านไป แล้วเมื่อพายุอ่อนกำลังลง บรรดาสารพัดสิ่งที่พายุพัดหอบเอามาด้วย ก็เลยตกลงไปกลายเป็นสารพัดฝนนี่แหละ นับว่าเป็นทฤษฎีที่ให้คำอธิบายที่ดีและน่าสนใจมากครับ

แต่.....แต่ครับ เมื่อมีผู้สนับสนุนก็ย่อมมีผู้คัดค้านเช่นกัน ยังมีเกจิอีกหลายท่านครับ ที่บอกว่า เป็นไปม่ายล่าย ทฤษฎีพายุหมุนนี่ยังไม่น่าจะอธิบายได้หมดจดชัดเจนทุกเรื่องนะ อย่างเช่น เรื่องจำนวนของสิ่งที่ตกลงมาน่ะ อย่างเรื่องฝนกบที่ตกลงมาเนี่ย บึง หนอง คลอง ไหนจะมีจำนวนกบเป็นร้อยๆ พันๆ ตัว อาศัยอยู่ หรือไม่ก็เมล็ดพืชที่ไหนที่ถูกหอบเอามาตกเป็นตันๆ แบบนี้ ครับ แค่ปัญหา 2 ข้อนี้ ก็ทำให้ผู้สนับสนุนทฤษฎีพายุหมุนปวดหัวแล้วครับ หากจะบอกว่าพายุหมุนพัดผ่านแม่น้ำลำคลองหรือทะเลสาบหลายที่และสะสมจำนวนกบและปลา หรือพัดผ่านไร่น่าทุ่งหญ้าและสะสมจำนวนเมล็ดธัญพืชมาจนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วพอพายุอ่อนแรง สารพัดสิ่งที่หอบมาก็เลยตกลงไปเนี่ย มันก็เป็นอะไรที่คนตอบจะเจ็บสีข้างน่าดู (เพราะคำตอบเป็นแบบเถียงเอาสีข้างถูไป) เหตุผลอีกข้อที่ฝ่ายค้านว่าไว้ก็คือว่าส่วนใหญ่แล้วสิ่งที่ตกลงมานั้นน่ะ มักจะมีแค่อย่างเดียวหรือก็คือถ้าเป็นฝนกบ ก็จะมีแค่กบนั้นแหละที่ตกลงมา 100-200 ตัว หรือถ้าเป็นปลาก็มักจะมีแค่ปลาเท่านั้นที่หล่นลงมา น้อยครั้งที่จะมีอะไรอย่างอื่นผสมมาด้วย แล้วพายุที่ไหนครับที่เลือกพัดหอบเอาแค่กบ เอาแค่ปลา ไปตกที่อื่น ? อื้ม น่าคิดนะครับเนี่ย เป็นอะไรที่น่าสนใจดี (อีกแล้ว) ครับสำหรับข้อสังเกตนี้.........สำหรับเรื่องราวฝนประหลาดนี้ก็ยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันต่อมาจนถึงทุกวันนี้ครับ ว่าแท้จริงแล้วมันเกิดจากอะไรกันแน่ อาจจะเป็นแค่ความบังเอิญหรือเป็นเพียงปรากฏการณ์จากธรรมชาติธรรมดาๆ เท่านั้น หรือว่า ................................. เว้นเอาไว้ให้เติมกันต่อเองครับ ^_^

ขอแถมท้ายกับรายงานล่าสุดของฝนประหลาดอีกหน่อยครับ ในปี ค.ศ. 2000 ที่ประเทศเอธิโอเปียมีรายงานว่ามีปลาตกลงมาจากท้องฟ้านับล้านตัว โอ้ แม่เจ้า นับเป็นสถิติฝนปลาที่มากที่สุดได้เลยนะครับเนี่ย ก็ว่ากันไปละครับสำหรับข้อมูลของอันดับนี้ ตอนแรกว่าจะเล่าน้อยๆ แฮะ แต่ไหงร่ายยาวเลยหว่า อิอิ เอาละ เราไปต่อกันที่อันดับต่อไปเลยดีกว่าครับ
ขึ้นไปข้างบน Go down
tsukung
New Member
New  Member
tsukung



Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ   Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ Icon_minitimeWed Mar 24, 2010 2:28 pm

ดีแฮะ
ขึ้นไปข้างบน Go down
~SkYbErRyLove~
Beginner
Beginner
~SkYbErRyLove~



Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ   Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ Icon_minitimeFri Mar 26, 2010 1:05 pm

เฮ้ยเตาก๊อปมาจากเว็บไรอย่างอ่านอีกอ่ะ
ขึ้นไปข้างบน Go down
~SkYbErRyLove~
Beginner
Beginner
~SkYbErRyLove~



Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ   Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ Icon_minitimeFri Mar 26, 2010 1:06 pm

แฮ่โทษพิมผิด เต่า
ขึ้นไปข้างบน Go down
PARZ
Beginner
Beginner
PARZ



Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ   Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ Icon_minitimeFri Mar 26, 2010 1:16 pm

ชอบว่ะ ๆ แกก็มีอะไรดี ๆ เหมือนกันนะเนี่ย ฮ่า ๆ

พลอย ไปอิดิตก็ได้ 2 คอมเม้นเพื่อ ?
ขึ้นไปข้างบน Go down
"TuLI_:p"
Admin
Admin
Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ 2-18



Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ   Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ Icon_minitimeSat Apr 03, 2010 5:56 pm

ขอบ คุน ครับ
ขึ้นไปข้างบน Go down
"TuLI_:p"
Admin
Admin
Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ 2-18



Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ   Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ Icon_minitimeMon Apr 05, 2010 8:24 pm

ถ้า อยาก รู้ ราย เพิ่ม เติม

ก่า ทิ้ง คำ ถาม ไว้ นะ ครับ
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Mystery club : 6 อันดับจากเรื่องเล่าเป็นเรื่องจริง
» Mystery club : เดอะไพรเออรี่ออฟไซออน
» Mystery club : ปริศนาผ้าห่อศพแห่งตูริน
» Mystery club : การเล่นแร่แปรธาตุ
» Mystery club : ตำนานเทพแห่งโอลิมปัส

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
3/9\'\'MuAng PhOn PiTtAYaKoM\'\' :: DETECTIVE :: ไร้สาระ-
ไปที่: