3/9\'\'MuAng PhOn PiTtAYaKoM\'\'
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.


3/9 โรงเรียนเมืองพลพิทยาคมปีการศึกษา 2552
 
บ้านGalleryLatest imagesค้นหาสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Mystery club : เรื่องลึกลับอันดับ8ของโลก สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา

Go down 
3 posters
ผู้ตั้งข้อความ
"TuLI_:p"
Admin
Admin
Mystery club : เรื่องลึกลับอันดับ8ของโลก สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา 2-18



Mystery club : เรื่องลึกลับอันดับ8ของโลก สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Mystery club : เรื่องลึกลับอันดับ8ของโลก สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา   Mystery club : เรื่องลึกลับอันดับ8ของโลก สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา Icon_minitimeWed Apr 07, 2010 6:21 pm

เบอร์มิวด้า อยู่ในบริเวณ ของ มหาสมุทร แอ๊ตแลติค พื้นที่ เริ่มจากตอนเหรือของเบอร์มิวด้า ไปถึงตอนใต้ของ รัฐฟลอริด้า และจากฟลอริด้า ถึงบาฮามัส และย้อยไปเบอร์มิวด้า อีครั้ง พื้น ที่ตรงนี้เอง ที่เรียก ว่าสามเหลื่ยม เบอร์มิวด้า มีเรือเดินสมุทร จำนวน 156ลำ(1898-1990) และ เครือง บินอีก นับไม่ถ้วน หายไป อย่างลึกลับ โดยไม่มี ร่องรอย ชีวิตมนุษจำนวน นับพัน หรือ แม้แต่ เศษเคื่องบิน หรือเรือเดิน สมุทร เครื่องบินที่ หายไปอย่างไร้ ร่องรอย เหนือพื้นที่ ลึกลับแห่งนี้ มักจะ หายไป จาก จอเรด้า ไปเลยโดนไม่มี สัญญาน บ่งบอก ถึง ความตายที่ รอ อยู่หน้าทั้งสภาพของ อากาศ และทัศนะวิสัย สงบ ไร้วี่แววของ พายุ แต่ บาง ครั้ง ก็การติดต่อ มายังศูยการบิน ว่า ไม่สามารถควบคุม ระบบต่างๆ ของเครื่องได้ เข็มทิศ มุนปัด ไม่สามาถร บอก ทิศทางได้ ท้องฟ้า ที่ไร้ วี่แวว ของ พายุ กับ กลาย เป็นครึ้มฟ้า ครึ้มฝน พายุขานใหญ่ เกิด ขึ้น ดูด น้ำ จาก มาหาสมุทขึ้นมา นับ สูงนับ ร้อยฟุต โดนไม่รู้สาเหตุ เหตุการที่เกิด ขึ้นกับ เรือเดินสมุทร เมื่อ เล่นเรือไป ยัง ศูนกลางของ สามเหลี่ยม เบอร์มิวด้าก็หายไปอย่าง ลึก ลับ โดยไร้วี่แวว คนที่รอดชีวิต เรื่องเล่า ของเรือ มารีนซันเฟอร์ควีน ที่หายไป เมื่อ 2กุมภาพันธ์ ปี 1863 ก่อนที่จะมีการ บันทึกจำนวนเรือที่หายไป ในสามเหลื่ยมเบอร์มิวด้า 25ปี เล่ากันว่าเรือเครื่องจักไอน้ำลำนี้ได้ เจอ เข้า กับวัตถุ ลืก ลับ หรือ สิ่งมีชีวิต อะไรสักอย่าง ฉุด เรือลำนี้ใว้จนไม่ สามารถ แล่นเรือต่อไปได้ รอถึง 28ชั่วโมงจนข้าถึง วันที่ 1กุมภาพันธ์ ปี1863 จึงรอดพ้น สิ่งลึกลับนี้มาได้ นี้คือสิ่งแรกที่ เรือโชคร้ายลำนี้เจอ กับตัน สั่งให้ หันหัวเรือทำมุม 43 องศา กับเส่นรุ้ง มุ่งหน้าเข้าสู่ รัฐ ฟอริด้า ก่อน ถึง จุดศูยกลาง ได้ เกิดพายุทำให้ เกิด พายุขนาดใหญ่( ไม่มีการ บันทึก ความรุนแรงแต่ ลองประเมิน พายุที่ สามาถร จมเรือ ขนาดแรงขับน้ำ 65000ตัน น่าจะอยู่ใน ระดับ 4) แล้วเรือ ลำนี้ก็ หายไปอย่างลึกลับ 13 สิงหาคม ปี 1942 เรือสัญชาติ ญี่ปุ่น ชื่อ ไรฟุกุมารุ ได้ วิทิยุ ขอคาวม ช่วย เหลือ ขนะอยู่ ระหว่าง คิวบา และบาฮามัส ว่า ได้ ติดอยู่ กลาง พายุ แล้ว หายไป อย่างไร้ ร่อง ลอย จนกระ ทั่ง ปี 1955 เรือจับ ปลา ขนาด เล็ก ลำหนึ่ง ได้เจอเข้ากับเรือ ไรฟุกุมารุ เกย ตื่น อยู่ ในแนว ปะการัง ในหมู่เกาะเล็กๆ เจอกับ บันทึกการเดินเรือ ของ กับตัน แต่ ยังคง เป็น ความลับ อยู่ถึงปัจจุบรร ว่าใน บันทึก เล่มเล็กๆ เล่มนั้น มีความลับอะไรซ่อนอยู่ มัน คือ หลักถานอย่างเดียว ที่เหลือรอดจาก เหตุการ ที่ผู้คนนับพัน ไม่สามรถ ฝื้นขึ้นมา บอกเล้าให้คนรุ่น หลังอย่างเราได้ฟังได้ [JUSTIFY]เรื่องราวที่มินจะนำมาเล่าต่อไปนี้ ก้อยังคงเป็นเรื่องที่น่าพิศวงอยู่จนถึงกระทั่งปัจจุ บัน เกี่ยวกับเจ้าสามเหลี่ยวเบอมิวด้า(Bermuda Triangle) บางคนอาจจะรู้จักกันแล้วนะคะ สำหรับเจ้าน่านน้ำปริศนาแห่งนี้ สามเหลี่ยมเบอมิวด้าเป็นการบรรจบกัน หรือว่าเป็นการลากเส้นสมมุติเพื่อกำหนดอาณาบริเวณในม หาสมุทรแอตแลนติก โดยการลากเส้นจากฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา สู่เกาะเบอร์มิวด้า สู่เกาะเปอร์โตริโก้ แล้วก้อ วกกลับมาที่ฟลอริด้าอีกทีนึง จึงเป็นรูปสามเหลี่ยมได้อย่างพอดิบพอดีแถมทำมุม60 องศาในแต่ละด้านเป็แปลกๆ นี่ล่ะ ที่ถือว่าเป็นปริศนาแห่งศตวรรษที่ 20 เลยทีเดียว ถึงจนกระทั่งปัจจุบัน สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า บางคนอาจจะเรียกว่าดินแดนมรณะ เนื่องจากมีผู้คนที่ขับเรือบ้าง ขับเครื่องบินบ้างหลงเข้าไปในอาณาเขตอันกว้างใหญ่นี้ แล้วหายสาปสูญไปอย่างไร้สาเหตุ บางคนก้อบอกว่าสาเหตุมาจากเจ้ามนุษย์ต่างดาว ไม่ก้อมนุษย์ที่อาศัยอยู่ใต้มหาสมุทรบริเวณนั้น บ้างก้อบอกว่า มาจากบรรดาวิญญาญ เหล่าปีศาจหรือว่าสัตว์ลึกลับ ก้อว่ากันไปนั่นเนาะ ปัจจุบันก้อยังเป็นประเด็นที่ยังถกเถียงกันอยู่อย่าง นสามเหลี่ยมด้านเท่าซะด้วยสิไอ้เจ ้าสามเหลี่ยมไม่รู้จบ จามีเงื่อนงำบ้างมั๊ยเนี่ยน้า สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นเงื่อนงำ เกินกว่าปัญญาของมนุษย์จะแก้ได้ ทางนักวิชาการก้อมีการเสนอทฤษฎีต่างๆนานา บ้างก้อว่าเกิดจากความผิดปกติของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า บ้างก้อว่าเกิดจาอำนาจของสิ่งบินลึกลับ หรือที่เราเรียกกันว่า UFO จนคล่องปาก เป็นเวลานานมาก ที่เจ้าดินแดนปริศนาแห่งนี้ ลือกันไปจนทั่วโลก ในฐานะของดินแดนมรณะที่ดูดกลืนชีวิตและทรัพย์สินของผ ู้ที่สัญจรผ่านไปในบริเวณนั้น ตามสภาพภูมิศาสตร์ทางที่ตั้ง บริเวณนี้เป็นบริเวณที่แปรปรวนมาก เพราะมีทั้งกระแสน้ำอุ่นและกระแสน้ำเย็นไหลมาผสมปนเป กัน จนบางทีก้อเกิดสภาพอากาศแบบแปรปรวนกระทันหัน นี่แหละคือตัวอันตรายที่จะไม่สามารถพยากรณ์อากาศล่วง หน้าได้เลย นอกจากนี้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้ายังจัดเป็นเขตอันตรายที่มักปรา กฎคลื่นขนาดยักษ์ที่เคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็วและรุนแ รง อะไรที่ขวางหน้า กวาดไปเรียบน่ะ ไม่มีเหลือซาก หุหุ คลื่นบางลูกก้อทำให้เกิดสะดือทะเล คือผืนน้ำจะเปิดเป็นช่อง หมุนเป็นเกลียวดูดกลืนทุกอย่างเข้าสู่วังวน เรือที่หมุนเข้าไปก้อจะพลิกคว่ำและอับปางได้ในเวลาอั นรวดเร็ว แต่สาเหตุที่กล่าวมา ก้อยังไม่ดึงดูดใจนักลึกลับศาสตร์แม้แต่น้อย อีกทฤษฎีหนึ่งที่น่าสนใจ ที่มินคิดว่ามีคนสนใจสนับสนุนน้อยก้อคือ มีสิ่งมีชีวิตบางประเภทที่อยู่นอกสารบบของวงการชีววิทยาปัจจุบันค่ะ เพราะว่ามีข่าวลือมากมายจริงๆ กับการค้นพบเจ้าปลาหมึกยักษ์ยาวหลายร้อยฟุต จนไปถึงงูยักษ์หรือว่าเจ้าพวกมังกรทะเล ซึ่งแต่ละปีมีการรายงานสัตว์ตัวยักษ์จำนวนมากทีเดียว ในบริเวณนี้ แต่ก้ออีกนั่นแหละที่เป็นไปไม่ค่อยได้คือเจ้าสัตว์เห ล่านี้ จะมีปัญญาสยบเครื่องบินที่บินฉวัดเฉวียนอยู่บนท้องฟ้าได้อย่างไร และแล้วเจ้า UFO ก้อเข้ามาเกี่ยวข้องอีกจนได้ แต่เค้าก้อมีเหตุผลน่าสนับสนุนนะคะ เค้าบอกว่ามีรายงานการพบเห็น UFO บ่อยๆ หรือที่เรียกว่าสิ่งบินลึกลับ จากเรด้าสถานีชายฝั่งที่สามารถจับสัญญาณได้ มีเหตุการณ์ประหลาดๆ มากมาย พบว่าตั้งแต่ปี คศ.1963-1973 เรือ60ลำ และผู้โดยสาร 900 คนสูญหายโดยไม่มีการส่งสัญญาณ SOS เลย หรือแม้กระทั่งเครื่องบินที่มีรายงานว่า มีคลื่นแทรกรบกนระบบมาก จนไม่สามารถจับสัญญาณอะไร การติดต่อเป็นเสียงขาดๆ จางๆ มีปรากฎการณ์"หมอกเรืองแสงสีขาว" พื้นน้ำเป็นสีขาว เข็มทิศหมุนติ้ว แล้วก้อจากหายไป จึงมีการขนานนาม เจ้าสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า นี้ว่า "ทะเลปีศาจ"(Devil sea) หนังสือบางเล่มบอกเอาไว้ว่า เจอเครื่องบินบนดาวอังคาร แต่ว่านั่นคือเครื่องบินที่หายสาปสูญในสามเหลี่ยมเบอ ร์มิวด้าเมื่อสิบปีที่แล้ว เหอๆ น่ากัวงะ สงสัยต้องให้ผู้มีความสามารถสูงหรือว่า คนเหนือคนที่มีพลังจิตหรือว่าพลังพิศวงศึกษา
อิทธิพลของกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม ในเชิงภูมิศาสตร์พื้นฐานแล้ว กระแสน้ำอุ่นและกระแสน้ำเย็น มีอิทธิพลมากครับกับสภาพภูมิอากาศในมหาสมุทร เชื่อหรือไม่ว่า กระแสอากาศในแถบมหาสมุทรแอตแลนติคและแปซิฟิค ส่วนใหญ่จะเป็นกระแสอากาศที่เย็นและแห้ง ในบางขณะการเคลื่อนตัวของกระแสอากาศจะทำให้มวลอากาศหนาแน่นขึ้น มีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย เมื่อมันเคลื่อนผ่านกระแสน้ำอุ่น หรือ กระแสน้ำเย็น จึงทำให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวนอย่างกระทันหัน บางครั้งถึงกับเป็นความแปรปรวนของอากาศแบบพยากรณ์ล่วงหน้าไม่ได้ นี่แหละครับตัวอันตรายต่อการเดินทางผ่านมหาสมุทรนัก อาจเป็นไปได้ว่า เรือและเครื่องบินที่สูญหายไป ส่วนหนึ่งคงบังเอิญผ่านเข้าบริเวณที่สภาพอากาศแปรปรวน มีลมพายุ เรือเดินทะเลขนาดเล็กน้อยรายครับที่จะรอดออกมาได้หากเจอสภาพการณ์แบบนี้เข้า ในเขตอันตรายเช่นนี้ มักจะปรากฏคลื่นขนาดยักษ์เคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง เรียกว่าอะไรที่ขวางหน้าพ่อกวาดเรียบไม่มีเหลือ คลื่นบางลูกสูงเกินกว่าร้อยฟุตและก่อตัวแบบฉับพลัน ในขณะที่คลื่นบางลูกก่อให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่าสะดือทะเลขึ้น คือผืนน้ำจะเปิดเป็นช่อง หมุนเป็นเกลียวดูดทุกสิ่งทุกอย่างเข้าสู่กลางวังวน หากมีเรือผ่านเข้ามาก็จะเกิดสูญเสียการควบคุม โดนดูดเข้ากลางวังน้ำวนและพลิกคว่ำอับปางอย่างทันควัน ด้วยเหตุนี้เองครับ จึงมีผู้สันนิษฐานว่า ลมพายุและคลื่นยักษ์ น่าจะเป็นสาเหตุหลักของการสูญหายในบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า แต่คำตอบดังกล่าวไม่ได้ถูกใจนักลึกลับศาสตร์ทั้งหลายแม้แต่น้อย
ความลี้ลับของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาเป็นอาณาบริเวณส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแอ็ตแลนติคภาคตะวันตก พื้นที่ทั้งหมดเริ่มจาก ตอนหนือของเบอร์มิวดาไปถึงตอนใต้ของรัฐฟลอริดาและจากฟลอริดามุ่งตรงไปทางตะวันออกทำมุมสี่สิบองศากับเส้นรุ้ง ผ่านบาฮามัสและเปอร์โตริโก จากนั้นก็ย้อนเฉียงกลับไปสู่ทางใต้ตอนเหนือของเบอร์มิวดาอีกซึ่งทำให้อาณาบริเวณแห่งนี้ กลายเป็นรูปสามเหลี่ยมและอาณาบริเวณรูปสามเหลี่ยมแห่งนี้เองที่เป็นแหล่งกำเนิด ปรากฏการณ์ อันลี้ลับ มหัศจรรย์ขึ้น ในยุคอวกาศของชาวเราในปัจจุบัน เป็นสิ่งลึกลับและเหลือเชื่อหากจะบอก ท่านว่า เริ่มตั้งแต่หลังสงครามโลก ครั้งที่สองในปี ค.ศ. 1945 มาจนถึงปัจจุบัน เครื่องบินจำนวนกว่า 100 เครื่องและเรือ เดินสมุทร จำนวนอีกมากหลายได้ หายไปในบรรยากาศ และพื้นทะเลของ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาแห่งนี้ โดยไม่มีร่องรอย ชีวิตมนุษย์จำนวนพัน ในระยะเวลา กว่า 20 ปีที่ผ่านมา ได้หายไปพร้อมกับ พาหนะโดยไม่มีซากศพ แม้แต่รายเดียว หรือเศษชิ้นส่วนใด ๆ ของเรือ หรือ เครื่องบินที่หายไปเหลือให้เห็น การหายสาบสูญของเรือ เครื่องบิน และชีวิตมนุษย์ ในบริเวณดินแดนสามเหลี่ยม- เบอร์มิวดา ยังคงปรากฏอยู่ต่อไป และมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ชาติต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสูญเสียเหล่านี้ ต่างก็พยายามดำเนินการค้นคว้า หาสาเหตุ แห่งปรากฏการณ์อันประหลาดและลึกลับนี้อย่างเร่งด่วน แต่ก็ไม่มีใคร สามารถบอกสาเหตุ และหาทางป้องกัน จากภัยที่เกิดขึ้นในบริเวณท้องทะเลแห่งนี้ได้ไม่ เครื่องบินที่หายไปเหนือพื้นทะเลแห่งนี้ส่วนมากก่อนที่จะหายการติดต่อกับฐานปฏิบัติการณ์ หรือสถานีปลายทาง เป็นไปอย่างปกติ และสภาพของบรรยากาศ และทัศนะวิสัย ก็สงบและ แจ่มใสดี ไม่มีวี่แววของพายุร้ายใด ๆ แต่แล้ว เมื่อถึงบทจะหายเครื่องบินเหล่านั้นก็จะหายไป อย่างฉับพลันโดยไม่มีร่องรอย ซึ่งนักบินก็ไม่มีโอกาสที่จะแจ้งข่าวทาง วิทยุให้หน่วยควบคุม การบินทราบได้ แต่ ก็มีเป็นจำนวนมากเหมือนกัน ก่อนที่เครื่องบินจะหายสาบสูญ นักบิน มีเวลา พอที่จะแจ้งข่าวผิดปกติ มายังฐานปฏิบัติการได้ ซึ่งทุกรายต่างก็แจ้งตรงกันทั้งหมดว่า ไม่สามารถควบคุมกลไกต่าง ๆ ให้ดำเนินไปตามปกติได้ เข็มทิศประจำเครื่องจะหมุน ปั่น จะไม่สามารถบอกทิศทางได้ ท้องฟ้าจะกลายเป็นสีเหลือง และมองดูคล้ายหมอกหนาทีบ ทั้ง ๆ ที่เป็นวันที่บรรยากาศแจ่มใส และแดดส่องจ้ามาก่อน และท้องทะเลซึ่งเงียบสงบ กลับปั่นป่วน ขึ้นมาโดยไม่อาจจะทราบสาเหตุได้ อุบัติการณ์ ลึกลับที่ไม่อาจให้คำอธิบายได้ เกี่ยวกับการสาบสูญของเรือเดินสมุทร และ เครื่องบินเป็นจำนวนมาก ในดินแดนแห่งสามเหลี่ยมเบอร์มิวดายังคงเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้ขาด จนกระทั่งในปัจจุบัน ทุกครั้งที่ได้รับรายงานการ สูญหาย หน่วยยามฝั่งที่ เจ็ด ของกองทัพเรือสหรัฐ จะทำการค้นหาร่องรอยอย่างละเอียดละออ แต่ก็ประสบความ ล้มเหลว ที่จะพบพยานหลักฐาน ซึ่งจะนำไปสู่การไขปัญหาลึกลับนี้ได้ทุกครั้ง และในที่สุด กองทัพเรือสหรัฐ ก็ได้เก็บเรื่องเหล่านี ้ไว้เป็นความลับ ไม่ยอมเปิดเผยหรือให้คำวิจารณ์ใด ๆ แก่ประชาชน ที่อยากรู้อยากเห็นว่า อุบัติการณ์ ลึกลับเหล่านั้น เกี่ยวข้องกับความอาถรรพ์ของดินแดนแห่งสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาหรือไม่ แต่ทั้ง ๆ ที่กองทัพเรือสหรัฐพยายามจะปกปิด เรื่อราวเหล่านี้ไว้ ประชาชนทั่วไปก็เริ่มรู้ระแคะระคาย ต่าง ๆ และเชื่อว่า จะต้องมี แรงอาถรรพ์ หรือพลังอำนาจอันลึกลับ อย่างหนึ่งอย่างใด ภายในบริเวณ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาอย่างแน่นอน และยิ่งปรากฏว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีข่าวรายงานว่า มี นักบิน และนักเดินเรือบางคนได้รอดชีวิตมาจากปรากฏการณ์สยองขวัญ ในดินแดนของ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา จึงทำให้ เกิดการฮือ ฮากันใหญ่ในขณะนี้ แต่อย่างไรก็ดี จวบจน กระทั่งบัดนี้หาได้มีผู้ใด ที่สามารถให้คำอธิบายแจ่มชัด เกี่ยวแก่ความลึกลับและ ความอาถรรพ์ของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาได้ไม่ และการสาบสูญ ก็ยังคงปรากฏอยู่ต่อไป โดยไม่มีทางป้องกันหรือขัดขวางได้ มีผู้ให้ความคิดเห็นและคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป บ้างก ็ว่าเนื่องมา จากความปั่นป่วน ของท้องน้ำ ที่เกิดขึ้นอย่างทันทีทันใด จากแผ่นดินไหว ใต้มหาสมุทร หรือเกิดจากอุกาบาตเป็นจำนวนมากในบริเวณนั้น ได้พุงเข้าชนเครื่องบิน และทำให้เกิดระเบิดขึ้นมา รังควานเป็นครั้งเป็นคราว สำหรับนักวิทยาศาสตร์ ให้คำอธิบาย ที่อาจ เป็นไปได้ว่า เครื่องบินและเรือเหล่านั้น ได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปยังอีกมิติหนึ่ง ด้วย การกระทำของสิ่งมีชีวิตที่มีปัญญาสูง เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง อีก ทฤษฏีหนึ่ง นักวิทยาศาสตร์ได้ให้เหตุผลว่า เครื่องบินอาจพุ่งดิ่งลงสู่ทะเล เพราะแรงดึงดูด ของ สนามแม่เหล็ก ไฟฟ้าหรือแรงโน้มถ่วงของโลก ที่เกิดจากฝีมือการกระทำของสิ่งมีชีวิต ที่มีปัญญาสูง เมื่อเครืองบิน นั้นร่อนลงสู่พื้นน้ำนักบินและลูกเรือก็จะถูกจับตัวโดย มนุษย์จากจานบิน (UFO) ที่ถูกควบคุมโดยมนุษย์อีกพวกหนึ่ง ที่ไม่คุ้นเคยกับชาวโลก ซึ่งอาจจะเป็นมนุษย์ที่เหลือรอดมีชีวิต สืบต่อกันมาจากสงครามนิวเคลียร์มหาประลัย ที่เกิดขึ้น ในกาลก่อน หรือเป็นมนุษย์จากอวกาศนอกโลก หรือมนุษย์ในอนาคต ที่ต้องการ รวบรวมตัวอย่างการดำรงชีวิตของ ชาวโลก เพื่อการศึกษาค้นคว้า หรือป้องกันภัย ที่จะเกิด จากอาวุธนิวเคลียร์ ในอนาคตอย่างใดอย่างหนึ่ง มีอยู่หลายกรณีเกี่ยวกับการสืบสวนความลึกลับของเรื่องนี้ ที่เจ้าหน้าที่มุ่งตรงใน ประเด็นซึ่งเกี่ยวกับท้องทะเล โดยเฉพาะเพราะแม้ว่า เราจะอยู่ในสมัยที่กำลังก้าวเข้าสู่ อวกาศก็ตาม แต่ความลึกลับของท้องทะเล ยังคงเป็นสิ่งมืดมน สำหรับพวกชาวโลกอยู่ ก่อน อื่นเราจะต้องรับความจริงที่ว่า 3 ใน 5 ส่วนของพื้นใต้มหาสมุทร เรายังรู้จักกันน้อยกว่า ปล่องภูเขาไฟในดวงจันทร์ หรือพื้นราบบนดาวอังคารเสียอีก เรามีแต่แผนที่ทางทะเล ที่เขียนขึ้นอย่างหยาบ ๆ จากการ สำรวจโดยใช้เสียงสะท้อนของโซน่า ใช้เครื่องดำน้ำลึก หรือเรือดำน้ำที่มีเขตจำกัดสำรวจได้เฉพาะพื้นน้ำที่ไม่ลึกนัก เท่านั้น และความประสงค์ ส่วนใหญ่ จะมุ่งเฉพาะการค้นหาแหล่งน้ำมัน และทรัพยากรธรรมชาติเท่านั้นเอง เรายัง ไม่อาจจะทราบได้ว่า ในส่วนก้นบึ้งที่ลึกที่สุด มีอะไรที่จะสร้างความประหลาดใจ อย่างใหญ่หลวงให้แก่พวกเราบ้าง พื้นทะเลลึกและหุบเหวใต้ท้องทะเล อาจจะเป็นที่อาศัย ของสิ่งมีชีวิตที่มีมันสมองและฉลาดเกินกว่าเราจะคาดคิด ก็เป็นได้ ความลึกลับมหัศจรรย์ ใต้ท้องทะเล หาได้หยุดยั้งเพียงเท่าที่กล่าวมาแล้วไม่ นิยายปรัมปรา เล่าลือสืบต่อเนื่องกันมา เกี่ยวกับพิภพ และสัตว์ประหลาดใต้ท้องทะเล โดย ไม่มีวันจบสิ้น และยิ่งการค้นพบหลักฐานซากเมืองโบราณ ใต้พื้นน้ำ ลึกเป็นพัน ๆ ฟุต ในหลายส่วนของพื้นมหาสมุทรทั่วโลก ยิ่งทำให้เรื่องพิลึกกึกกือได้รับความสนใจจาก ความอยากรู้ อยากเห็นของชาวโลกยิ่งขึ้น เราเคยทราบวัฒนธรรม และความรุ่งโรจน์ ของ ชาวเมืองแอตแลนติส โบราณจากบันทึกของ มหาปราชญ์เพลโตเมื่อสองพันกว่าปีมาแล้ว ปัจจุบันนักโบราณคดีและนักภูมิศาสตร์ ต่างเชื่อมั่นว่าอาณาจักรแอตแลนติก อันเคยรุ่งเรือง ด้วยอารยธรรมมาก่อนนั้นมีจริง ขณะนี้เมืองทั้งเมืองได้จมหายอยู่ใต้พื้นมหาสมุทร แอตแลนติคที่ใดที่หนึ่ง อีกสิ่งหนึ่งที่สร้างความประหลาดใจให้แก่โคลัมบัสเมื่อห้าร้อยปีก่อน คือส่วนหนึ่งของ กระแสน้ำอุ่น กัลฟ์ตรีม ที่เรียกกันว่าสายน้ำขาว พื้นน้ำบริเวณนี้จะมองเห็นสุกใส ด้วย แสงเรืองเป็นทางยาว ระยะทางเป็นไมล์ ๆ ใกล้ ๆ กับ บาฮามัส ซึ่งในปัจจุบันแสงเรือง บนพื้นน้ำเหล่านี้ก็ยังคงปรากฏอยู่การตรวจสอบของนักวิทยาศาสตร์ ก็ยังไม่ทราบแน่ชัด ว่าเกิดการเรืองแสงของจุลินทรีย์ในน้ำที่ถูกฝูงปลารบกวนหรือเป็นแสงเรืองที่เกิดจาก กัมมันตภาพรังสี หรืออาจเป็น การเคลื่อนไหวของสัตว์ประหลาดขนาดมหึมาใต้ท้องทะเลกันแน่ และยิ่งกว่านั้น มีเหตุผลพอจะทำให้เชื่อได้ว่า พื้นที่ใต้มหาสมุทรแถวนั้นอาจเป็นที่ตั้งฐาน ใต้น้ำ ของชาวนอกโลก ที่มาศึกษาชีวิตความเป็นไปในโลกของเราก็ได้ และแสงเรือง ที่เกิดขึ้น อาจเป็นสัญญาณให้ยานอวกาศของพวกเขาทราบตำแหน่งที่ตั้งและมองเห็นได้ ชัดเจน ก่อนที่ยานอวกาศจะเข้าสู่บรรยากาศโลก เหตุผลต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้ท่านอย่าเพิ่ง เชื่อปักใจ ไปกับอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะตราบใดที่เรายังไม่อาจพิสูจน์ได้แน่ชัด ปรากฏการณ์ประหลากชองสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาก็ยังเป็นเรื่องลึกลับ ที่มืดมนสำหรับเราอยู่
ขึ้นไปข้างบน Go down
"Bai-Mon;']
Admin
Admin
Mystery club : เรื่องลึกลับอันดับ8ของโลก สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา 1-22



Mystery club : เรื่องลึกลับอันดับ8ของโลก สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Mystery club : เรื่องลึกลับอันดับ8ของโลก สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา   Mystery club : เรื่องลึกลับอันดับ8ของโลก สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา Icon_minitimeSun Jun 13, 2010 10:19 am

ครับ
ขึ้นไปข้างบน Go down
"TuLI_:p"
Admin
Admin
Mystery club : เรื่องลึกลับอันดับ8ของโลก สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา 2-18



Mystery club : เรื่องลึกลับอันดับ8ของโลก สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Mystery club : เรื่องลึกลับอันดับ8ของโลก สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา   Mystery club : เรื่องลึกลับอันดับ8ของโลก สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา Icon_minitimeThu Aug 05, 2010 6:15 pm

งืมๆๆ สนุก มากก

อ่าน เรื่อง นี้
ขึ้นไปข้างบน Go down
I'mfern
Expert
Expert
I'mfern



Mystery club : เรื่องลึกลับอันดับ8ของโลก สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Mystery club : เรื่องลึกลับอันดับ8ของโลก สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา   Mystery club : เรื่องลึกลับอันดับ8ของโลก สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา Icon_minitimeSat Oct 09, 2010 2:16 pm

ผมค่อนข้างจะเชื่อว่ามันคือทะเลปีศาจนะ
ลองไปปะพวกเรานั้งเรือไป
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Mystery club : เรื่องลึกลับอันดับ8ของโลก สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Mystery club : 6 อันดับจากเรื่องเล่าเป็นเรื่องจริง
» Mystery club : เดอะไพรเออรี่ออฟไซออน
» Mystery club : ปริศนาผ้าห่อศพแห่งตูริน
» Mystery club : การเล่นแร่แปรธาตุ
» Mystery club : เก้าอันดับเรื่องลึกลับ

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
3/9\'\'MuAng PhOn PiTtAYaKoM\'\' :: DETECTIVE :: ไร้สาระ-
ไปที่: